วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

งานคอมธุรกิจ

ส่งงานอาจารย์ ศรัณย์



1. เมนบอร์ด
แผง วงจรหลัก เป็นหัวใจสำคัญที่สุดที่อยู่ภายในเครื่อง เมื่อเปิดฝาเครื่องออกมาจะเป็นแผงวงจรขนาดใหญ่วางนอนอยู่ส่วนประกอบหลักที่ สำคัญบนเมนบอร์ดคือ นั่นคือส่วนที่1.ซ็อคเก็ตสำหรับซีพียู 2.ชิปเซ็ต (Chip set) 3.ซ็อคเก็ตสำหรับหน่วยความจำ 4.ระบบบัสและสล็อต 5.Bios 6.สัญญาณนาฬิกาของระบบ 7.ถ่านหรือแบตเตอรี่ 8.ขั้วต่อสายแหล่งจ่ายไฟ 9.ขั้วต่อสวิทช์และไฟหน้าเครื่อง 10.จัมเปอร์สำหรับกำหนดการทำงานของเมนบอร์ด 11.ขั้วต่อ IDE 12.ขั้วต่อ Floppy disk drive 13.พอร์ตอนุกรมและพอร์ตขนาน 14.พอร์ตคีย์บอร์ดและเมาส์ 15. พอร์ต USB เรียกว่า "เมนบอร์ด"


2. แรม

RAM ย่อมาจากคำว่า Random-Access Memory เป็นหน่วยความจำของระบบ มีหน้าที่รับข้อมูลเพื่อส่งไปให้ CPU ประมวลผลจะต้องมีไฟเข้า Module ของ RAM ตลอดเวลา ซึ่งจะเป็น chip ที่เป็น IC ตัวเล็กๆ ถูก pack อยู่บนแผงวงจร หรือ Circuit Board เป็น module

เทคโนโลยี ของหน่วยความจำมีหลักการที่แตกแยกกันอย่างชัดเจน 2 เทคโนโลยี คือหน่วยความจำแบบ DDR หรือ Double Data Rate (DDR-SDRAM, DDR-SGRAM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากเทคโนโลยีของหน่วยความจำแบบ SDRAM และ SGRAM และอีกหนึ่งคือหน่วยความจำแบบ Rambus ซึ่งเป็นหน่วยความจำที่มีแนวคิดบางส่วนต่างออกไปจากแบบอื่น


 

3. ฮาร์ดดิส
 อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่บรรจุข้อมูลแบบไม่ลบเลือน มีลักษณะเป็นจานโลหะที่เคลือบด้วยสารแม่เหล็กซึ่งหมุนอย่างรวดเร็วเมื่อทำงาน การติดตั้งเข้ากับตัวคอมพิวเตอร์สามารถทำได้ผ่านการต่อเข้ากับมาเธอร์บอร์ด



4. พาวเวอร์ซับพลาย
เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากต่ออุปกรณ์เกือบทุกตัวในระบบคอมพิวเตอร์ ซัพพลาย ของคอมพิวเตอร์นั้นมีลักษณะการทำงาน คือทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าจาก 220 โวลต์ เป็น 3.3 โวลต์, 5 โวลต์ และ 12 โวลต์ ตามแต่ความต้องการของอุปกรณ์นั้นๆ โดยชนิดของพาวเวอร์ซัพพลาย ในคอมพิวเตอร์จะแบ่งได้เป็น 2 ชนิดตามเคส คือแบบ AT และแบบ ATX


5. CPU
คือ อุปกรณ์ตัวหนึ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นในการทำงานของคอมพิวเตอร์ซึ่งอาจจะ เรียกว่าเป็นหัวใจของคอมพิวเตอร์เลยก็ได้ ซีพียู เป็นตัวควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงที่ต่อร่วมกับคอมพิวเตอร์ โดย จะเป็นตัวกำหนดความสำคัญของอุปกรณ์ว่าตัวใดมีความสำคัญมากกว่าซึ่งหากติด ตั้งอุปกรณ์ 2 ตัวที่อินเทอรัพ, การแจ้งกับซีพียูว่าจะขอเฉพาะอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากกว่าเท่านั้น ส่วนตัวที่สำคัญน้อยกว่าจะไม่สามารถใช้งานได้ เช่น ถ้าเราต่อการ์ดจอภาพกับการ์ดเสียงที่อินเทอรัพเดียวกัน ซีพียู จะเลือกให้ใช้ได้เฉพาะการ์ดจอภาพเท่านั้น

QR-CODE


GIGABYTE

GIGABYTE TECHNOLOGY Co., Ltd. ผู้ผลิตอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมเมนบอร์ดและกราฟิกการ์ดระดับโลกมีความยินดี เป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศเปิดตัวสุดยอดเมนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล AMD AM3 Socket, เมนบอร์ด GA-890GPA-UD3H นับเป็นผลิตภัณฑ์เมนบอร์ดกลุ่มใหม่ที่ถูกสร้างสรรค์มาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงานที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการทำงานรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถในประมวลผลร่วมกับแอพลิเคชั่นสุดโหด หรือระบบเกมสามมิติความละเอียดสูง ตลอดทั้งการทำงานที่ต้องการแบนด์วิดธ์ในการโอนถ่ายข้อมูลที่รวดเร็ว      เมนบอร์ดตัวแรกที่มีการประสานการทำงานระหว่างชิพเซ็ต AMD 890GX และชิพเซต SB850 South Bridge, GIGABYTE GA-890GPA-UD3H นับเป็นเมนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดในอุตสาหกรรมที่สามารถรองรับการทำงานร่วมกับ เทคโนโลยี Serial ATA 6Gbps ได้มากถึง 6 ตัว โดยชิพเซต AMD SB850 ยังเป็นชิพคอนโทรลเลอร์ตัวแรกในอุตสาหกรรมที่สามารถสนับสนุนเทคโนโลยี Serial ATA 6 Gbps RAID ได้อีกด้วย ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดค่า RAID 0,1,5 และ 10 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของฮาร์ดไดร์ฟทั้งการสำรองข้อมูล หรือการบันทึกข้อมูลด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ นอกจากนั้นเมนบอร์ดรุ่นนี้ก็ยังสนับสนุนการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี GIGABYTE 3x USB Power Boost และเทคโนโลยี USB 3.0 อีกด้วย โดยคุณสมบัติดังกล่าวจะเป็นความสามารถของชิพคอนโทรลเลอร์คุณภาพสูง NEC® ซึ่งด้วยคุณสมบัตินี้จะทำให้เมนบอร์ด GIGABYTE GA-890GPA-UD3H สามารถตอบรับกับกระแสความเร็วของเทคโนโลยีการโอนถ่ายข้อมูล และเทคโนโลยีของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น

        “อะไรคือ แก่นแท้ของจุดเปลี่ยนในการส่งมอบประสิทธิภาพให้กับลูกค้าของเรา เมนบอร์ด GIGABYTE GA-890GPA-UD3H คือคำตอบของทุกอย่างที่ผู้ใช้งานต่างคาดหวัง” คำกล่าวของ Tim Handley, รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดภาคธุรกิจเมนบอร์ดจาก GIGABYTE Technology Co. Ltd. “ ไม่เพียงแต่ GA-890GPA-UD3H จะเป็นเมนบอร์ดที่เป็นศูนย์กลางของโซลูชันที่มีการอินทริเกรตกราฟิกชิพที่มี คุณภาพสูง สำหรับการเล่นไฟล์วีดีโอที่ซับซ้อนเท่านั้น แต่ยังเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับเทคโนโลยี SATA 6 Gbps ที่มาพร้อมฟังก์ชัน RAID, USB 3.0 และเทคโนโลยี GIGABYTE 3x Power Boost ได้ง่ายยิ่งขึ้น สนุกในทุกช่วงเวลา ไปกับประสบการณ์อันน่าเหลือเชื่อของเทคโนโลยีการโอนถ่ายข้อมูลที่มีความรวด เร็ว”

        เมนบอร์ด GIGABYTE GA-890GPA-UD3H มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษในการอินทริเกรต ATI Radeon™ HD 4290 IGP (Integrated Graphics Processor) กราฟิกชิพรุ่นใหม่ที่สนับสนุน DirectX 10.1 และการติดตั้งหน่วยความจำแบบ 128M DDR3 sideport memory มาให้พร้อมในตัว ให้การโอเวอร์คล็อกง่ายยิ่งขึ้นด้วยความเร็วของ GPU Clock ที่สูงถึง 1150MHz จากค่าดีฟอล์ 700MHz จึงทำให้กราฟิกชิพดังกล่าวสามารถให้คะแนนในการทดสอบ 3DMark06 score ได้สูงถึง 3300 หรือมากกว่านี้ (ขึ้นอยู่กับระบบที่ใช้ทดสอบ) ซึ่งเป็นประสิทธิภาพที่สูงกว่าแพลตฟอร์ม AMD 790GX มากกว่า 18 เปอร์เซ็นต์ อาจกล่าวได้ว่านี้คือชิพ IGP ที่ดีที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้ ก็ว่าได้ พร้อมกันนั้นเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มศักยภาพและขยับขยายระบบได้ง่าย ยิ่งขึ้น บนเมนบอร์ดยังมีการติดตั้ง PCI-E 2.0 x16 graphics slots มาให้มากถึง 2 ช่องอีกด้วย ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ความสามารถของเทคโนโลยี ATI CrossFireX™ ได้อย่างเต็มที่(จะวิ่งที่ความเร็ว x8,x8) อย่างไรก็ดีผู้ใช้งานก็สามารถติดตั้งกราฟิกการ์ดแบบเดี่ยวได้เช่นกัน เพราะด้วยประสิทธิภาพของกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ๆ ที่สนับสนุน DirectX 11 และเทคโนโลยี ATI Hybrid CrossFireX™ ก็ทำให้คุณสนุกไปกับประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ทรงพลังได้อย่างง่ายดาย

USB 3.0 Support
     เมนบอร์ด GIGABYTE GA-890GPA-UD3H สนับสนุนการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Super Speed USB 3.0 โดยการติดตั้งชิพคอนโทรลเลอร์ NEC uPD720200 มาให้ออนบอร์ด ซี่งมีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลสูงถึง 5 Gbps ผู้ใช้งานจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ความเร็วที่เพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราความเร็วที่ได้รับจาก USB 2.0 นอกจากนั้นยังมีความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่ทำงานบนพื้นฐาน USB 2.0 ทุกรุ่น ที่สำคัญด้วยคุณสมบัติพิเศษที่มีอยู่ใน NEC SuperSpeed USB 3.0 เทคโนโลยี จึงทำให้การจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์ USB เป็นไปอย่างราบรื่น รองรับการจัดการพลังงานให้กับอุปกรณ์ USB ยุคใหม่ที่มีอัตราการบริโภคพลังงานที่สูงขึ้น ได้ดียิ่งขึ้น3x USB Power Boost        เมนบอร์ด GIGABYTE GA-890GPA-UD3H จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี 3x USB Power Boost ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับเพิ่มพูนเสถียรภาพให้กับอุปกรณ์ USB โดยเฉพาะ มีความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ USB ทุกรุ่น ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดไดร์ฟ หรือออฟติคอลไดร์ฟแบบติดตั้งภายนอก ซึ่งด้วยนวัตกรรมนี้ จะช่วยให้การส่งมอบพลังงานผ่านพอร์ต USB มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถจัดส่งแรงดันไฟเพื่อใช้จ่ายพลังงานได้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอด้วย USB เพียงพอร์ตเดียว ส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB ได้มากขึ้น


 
2.ASUS

เมนบอร์ด รุ่นใหม่ ASUS M4A9TD Pro

ASUS M4A9TD Pro เมนบอร์ดใหม่ล่าสุด

หลัง จากที่เงียบมาพักใหญ่ ในที่สุด AMD ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวชิพเซ็ตเรือธง AMD890FX มาพร้อมๆ กับการมาถึงของซีพียู 6 แกนที่มีชื่อรหัสว่า Thuban เมื่อช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา และทางผู้ผลิตเมนบอร์ดอย่าง ASUS นั้นก็ไม่รอช้าที่จะนำชิพเซ็ตดังกล่าวมาใช้กับเมนบอร์ดของตน พร้อมกับใส่ลูกเล่นต่างๆ ไปอย่างมากมาย และวันนี้ผมได้รับเมนบอร์ดจา ASUS ที่ใช้ชิพเซ็ต AMD890FX สุดแรงตัวนี้มาทดสอบประสิทธิภาพกัน เชิญชมได้เลยครับ
Gallery

ภาพบนคือกล่องบรรจุภัณฑ์ของเมนบอร์ดตัวนี้ครับ จะเห็นได้ว่าตัวกล่องมีลักษณะเรียบง่าย ภายนอกกล่องบอกคุณสมบัติต่างๆ คร่าวๆ อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นซ็อกเก็ตซีพียูที่รองรับ และการเชื่อมต่อต่างๆ รวมทั้งคุณสมบัติ Core Unlocker ด้วยครับ ซึ่งไว้ผมจะอธิบายต่อไป 
การ ออกแบบของตัวเมนบอร์ดนั้นจะเห็นได้ว่าทาง ASUS ใช้สีดำเป็นสีหลักของพีซีบี ซึ่งตัดกับสล็อตสีฟ้าต่างๆ เป็นอย่างดี ทั้งนี้สำหรับช่องเสียบต่างๆ นั้นก็ดูไม่แออัดมากเกินไปนัก


สำหรับซอกเก็ตซีพียูที่เมนบอร์ดตัวนี้นั้นจะเป็นแบบ AM3 ซึ่งรองรับซีพียู Phenom II และ Athlon II ที่ใช้ซ้อกเก็ตดังกล่าวได้ทุกตัวในตลาด รวมทั้งซีพียู  6 แกนฉายา Thuban ด้วย สำหรับภาคจ่ายไฟนั้นในคู่มือเมนบอร์ดบอกไว้ว่าเปนแบบ 6+2 เฟสครับ

สล็อตแรมก็มีมาให้ 4 ช่อง ซึ่งรองรับแรมแบบ DDR3 แบบ Dual Channel ได้สูงสุด 16GB ที่ความเร็ว 2000/1600/1333/1066MHz



 ปุ่มที่เห็นกลางภาพคือปุ่ม MemOK! ครับ ซึ่งมีหน้านี่ในการปรับความเร็วแรมให้เหมาะสมกับที่เมนบอร์ดรองรับ จะว่าไปแล้วคุณสมบัติ MemOK! นี้แทบจะกลายเป็นคุณสมบัติประจำตัวเมนบอร์ดของ ASUS ทุกรุ่นไปแล้วก็ว่าได้

 สวิตช์ที่เห็นด้านบนสองตัวนั้นคือ Core Unlocker และ Turbo Key II ตามลำดับครับ โดยอันบนนั้นจะเป็น Core Unlocker ซึ่งมีคุณสมบัติในการปลดล็อคแกนของซีพียูที่ถูกปิดไว้ แต่คุณสมบัตินี้จะใช้ได้กับซีพียูบางรุ่นเท่านั้นนะครับ ซึ่งก็ต้องอาศัยดวงเดาเลขซีพียูกันไปตามระเบียบ ส่วนปุ่ม Turbo Key II นั้นมีไว้ใช้ในการเร่งความเร็วซีพียูโดยอัตโนมัตินั่นเอง

และ ที่สุดๆ ไปเลยสำหรับเมนบอร์ดตัวนี้คือการที่มีช่อง SATA 6Gb/s มาให้เลยถึง 6 ช่องด้วยกัน ควบคุมโดยชิพ Southbridge SB850 เอง รองรับ RAID 0, 1, 5, 10 ครับผม และถ้าเราชำเลืองมาทางขวาเราก็จะเห็นช่อง UltraDMA 133/100 ซึ่งควบคุมโดยชิพ JMicron



อันนี้เป็นชุดระบายความร้อนบนตัวชิพ Southbridge SB850

และนี่เป็นชุดระบายความร้อนที่อยู่บนตัวชิพ Northbridge 890FX ครับ


สำหรับพอร์ตต่อขยายต่างๆ นั้นก็มีมาให้อย่างพอเพียง ได้แก่ PCIe 2.0 x16 สองช่อง ซึ่งรองรับการต่อ CrossFireX ที่ความเร็ว x16 ด้วย นอกจากนั้นก็มี PCIe 2.0 x4 และ x1 มาให้อย่างละหนึ่งช่อง สุดท้ายก็เป็นช่อง PCI ธรรมดาสองช่องครับ
ช่อง I/O ด้านหลังเครื่องครับ ซึ่งประกอบไปด้วย:
1 x S/PDIF Out (Optical)
1 x IEEE 1394a
1 x LAN(RJ45) port
8 x USB 2.0/1.1
8 -Channel Audio I/O
1 x PS/2 Keyboard port (Purple)
1 x PS/2 mouse port (Green)
1 x Clear CMOS button
1 x Power eSATA port

 

หลักการทำงานคอมพิวเตอร์

รูปที่ 1 : แสดงหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
 การ ทำงานของคอมพิวเตอร์ เริ่มจากการป้อนข้อมูลเข้าทางหน่วยป้อนข้อมูล (Input Unit) ผ่านไปยังหน่วยประมวลผลข้อมูล (CPU : Central Processing Unit) โดยหน่วยประมวลผลข้อมูลกลาง จะทำงานร่วมกับหน่วยความจำ (Memory Unit) เมื่อได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ จะส่งข้อมูลออกไปยังหน่วย แสดงผล (Output Unit) ขบวนการทำงานสามารถเขียนเป็นแผนภาพ ได้ดังนี้ภาพเคลื่อนไหว เช่น ภาพคน สัตว์ สิ่งของ เป็นต้น

อุปกรณ์ต่อพ่วง คือ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่นำมาต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์เพื่อทำให้เกิดประโยชน์อย่าง ใดอย่างหนึ่ง เช่น นำอุปกรณ์มาต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์เพื่อพิมพ์ข้อมูล เพื่อสแกนรูปภาพ เพื่อทำให้เกิดเสียงเพลง เพื่อควบคุมไฟวิ่ง เพื่อตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์ เพื่อควบคุมเครื่องจักรกลในโรงงานต่าง ๆเป็นต้น หลักการทำงานของอุปกรณ์ต่อพ่วงแต่ละชนิด จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าจะให้อุปกรณ์ต่อพ่วงชนิดนั้นทำงานใด แต่อุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์จะต้องต่อสายเคเบิล หรือสายนำสัญญาณเข้ากับพอร์ตด้านหลังของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจจะเป็นพอร์ตขนานหรือพอร์ตอนุกรมก็แล้วแต่ที่จะกำหนด และโดยทั่วไปจะต้องมีโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ ต่อพ่วง เช่นต่อพ่วงเครื่องพิมพ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ จะต้องติดตั้งไดรเวอร์เพื่อให้คอมพิวเตอร์รู้จักกับเครื่องพิมพ์ตัวนั้นหรือ นำคอมพิวเตอร์ไปควบคุมไฟวิ่งจะต้องเขียนโปรแกรมควบคุม ไฟวิ่งติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์ด้วย 
  เครื่องพิมพ์ (Printer)   

 เป็น อุปกรณ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์เพื่อพิมพ์ข้อมูลออกทางกระดาษพิมพ์ โดยรับข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ ผ่านสายเคเบิลไปยังเครื่องพิมพ์ดังรูป 
รูปที่ 2 : แสดงการเชื่อต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เข้ากับคอมพิวเตอร์
มื่อต่อเชื่อม เครื่องพิมพ์เข้ากับ เครื่องคอมพิวเตอร์ได้แล้วให้ทำการติดตั้ง ไดรเวอร์ที่บริษัทให้มาพร้อมกับเครื่องพิมพ์ซึ่ง อาจจะเป็น แผ่นซีดีรอมหรือแผ่นดิสก์ โดยการใส่แผ่นซีดีรอมหรือแผ่นดิสก์เข้าไป ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมจะทำงานโดยอัตโนมัติ (Autorun) แล้วทำการติดตั้งตาม เมนูที่ปรากฏบนจอภาพ  
 รูปที่ 3 : แสดงไดรเวอร์ที่ติดตั้งเพื่อใหคอมพิวเตอร์รู้จักเครื่องพิมพ์

1. เครื่องพิมพ์ดอตเมตริก
2. เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก

3. เครื่องพิมพ์เลเซอร์  

1. เครื่องพิมพ์ดอตเมตริก
            เครื่องพิมพ์ดอตเมตริก (Dot Matrix) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้หัวเข็มกระแทกลงไปบนผ้าหมึกเพื่อให้หมึกที่ จะพิมพ์ตัวอักษรไปปรากฏบนกระดาษพิมพ์ เวลาพิมพ์จะมีเสียงดังมาก ตัวเครื่องพิมพ์จะมีราคาแพงส่วนผ้าหมึกจะมีราคาถูก ปัจจุบันใช้ในงานพิมพ์เอกสารที่ต้องการสำเนาหลายชุด เช่นใบสั่งซื้อ บิลเงินสด ใบเสร็จรับเงินหรือใบส่งของ เป็นต้น
  รูปที่ 4 : แสดงเครื่องพิมพ์ดอตเมตริก 
   หัวพิมพ์จะประกอบ ด้วยเข็มโลหะเล่มเล็ก ๆ วางเรียงกันเป็นแถวจำนวน 9 เข็มหรือ 24 เข็มเข็มแต่ละเล่มจะรับสัญญาณ ควบคุมให้พุ่งผ่านผ้าหมึก (Ribon) ไปตกกระทบบนกระดาษซึ่งมีล้อยางรองรับอยู่ด้านหลังให้เรียงจุดเป็นตัวอักษร หรือภาพ โดยล้อยางจะทำหน้าที่เคลื่อนกระดาษให้เลื่อนบรรทัดในการพิมพ์ ความเร็วในการพิมพ์นับเป็นจำนวนตัวอักษรต่อวินาที เครื่องพิมพ์ที่มีความเร็วสูงสามารถเคลื่อนหัวพิมพ์ได้สองทิศทาง มีทั้งขนาดแคร่สั้นและแคร่ยาว สามารถพิมพ์ได้ทั้งสีและขาวดำ ถ้าเป็นการพิมพ์ประเภทสีจะใช้หลักการเคลื่อนผ้าหมึกสี (น้ำเงิน เขียว แดง ดำ) ผสมสีกัน 

2. เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก
เครื่องพิมพ์แบบพ่น หมึก (Ink Jet Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่อาศัยหลักการพ่นหมึกออกมาบนกระดาษพิมพ์โดยมีหัวพิมพ์ เคลื่อน ที่บนแกนโลหะ การทำงานของหัวพิมพ์ใช้วิธีการฉีดพ่นน้ำหมึกเป็นจุดขนาดเล็ก ๆ จากกลักน้ำหมึกให้เป็นตัวอักษรหรือรูปภาพ แทนลงบนกระดาษ ความละเอียดของการพิมพ์วัดเป็นจำนวนจุดต่อตารางนิ้ว ขนาดกระดาษที่ใช้มักเป็นขนาดA4(8.27 X 11.69 นิ้ว) หรือขนาดที่เล็กกว่า ความเร็วในการพิมพ์นับเป็นจำนวนหน้าต่อนาที การพิมพ์สีจะใช้หลักการพ่นหมึก3 สีคือ น้ำเงิน แดง และเหลือง ผสมกัน 
     รูปที่ 5 : แสดงเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก

ข้อดีของเครื่อง พิมพ์แบบพ่นหมึกคือ มีความเร็วในการพิมพ์สูงกว่าแบบดอตเมตริก สามารถพิมพ์ตัวอักษรและภาพได้หลายแบบ มีคุณภาพสูง สามารถพิมพ์ได้ทั้งสีและขาวดำ แต่มีข้อเสียคือความคมชัดน้อยกว่าเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ ไม่สามารถพิมพ์กระดาษสำเนาหลายชั้นเหมือนกับเครื่องพิมพ์แบบดอตเมตริกได้ ไม่สามารถพิมพ์ลงบนกระดาษผิวมันและลื่นได้ เพราะหมึกอาจเลอะเปื้อนกระดาษหมึกของเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกจะมีราคาแพงมาก แต่ตัวเครื่องพิมพ์จะมีราคาถูก หมึกของเครื่องพิมพ์แบบนี้จะเก็บอยู่ในตลับหมึก เมื่อหมึกหมดก็เพียงแต่เปลี่ยนตลับหมึกอันใหม่ก็ใช้งานได้ทันที นอกจากการเปลี่ยนตลับหมึกแล้วยังสามารถเติมหมึกเองก็ได้สำหรับเครื่องบาง ยี่ห้อ 


3. เครื่องพิมพ์เลเซอร์
           เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ (Laser Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ มีราคาแพงกว่าเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก มีคุณภาพในการพิมพ์สูงเหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการความเร็วและตัวอักษรคมชัด มีหลักการทำงานคล้ายกับเครื่องถ่ายเอกสาร โดยจะทำการแปลงข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ให้เป็นรหัสแล้วใช้ลำแสงเลเซอร์ยิงเป็น รูปภาพต้นแบบลงบนแท่นพิมพ์ที่เป็นล้อยาง (Drum) แล้วทำการใช้ความร้อนดูดผงหมึกจากกลัก (Toner) เข้ามาติดกับล้อยางตามแบบพิมพ์ จากนั้นกระดาษจะถูกรีดด้วยล้อยาง ผ่านแม่พิมพ์ที่มีผงหมึกติดอยู่ทำให้เกิดเป็นตัวอักษรหรือภาพบนกระดาษ ความละเอียดของการพิมพ์วัดเป็นจำนวนจุดต่อตารางนิ้ว (Dot Per Inch : DPI) ขนาดกระดาษที่ใช้มักเป็นกระดาษขนาด A4 หรือขนาดที่เล็กกว่า ความเร็วในการพิมพ์ ความเร็วในการพิมพ์นับเป็นจำนวนหน้าต่อนาที
  
 รูปที่ 6 : แสดงเครื่องพิมพ์เลเซอร์ 

ข้อ ดีของเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์คือ มีความเร็วในการพิมพ์สูง พิมพ์ตัวอักษรและภาพได้หลายแบบ มีคุณภาพและความคมชัดมากกว่าเครื่องพิมพ์แบบดอตเมตริกและเครื่องพิมพ์แบบพ่น หมึก แต่มีข้อเสียคือ ไม่สามารถพิมพ์กระดาษหลายชั้นที่ต้องการสำเนาได้ กลักผงหมึกมีราคาแพงมาก กระดาษที่ใช้ต้องมีคุณภาพดี การบำรุงรักษาค่อนข้างยุ่งยากเมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์แบบดอตเมตริก ปัจจุบันมีบางบริษัทนำเอาตลับหมึกใช้แล้วมาผลิตใช้ ใหม่อีกครั้งแล้วขายในราคาถูก ตลับหมึกประเภทนี้ควรจะระมัดระวังในการซื้อใช้ เพราะจุดนี้อาจจะเป็นเงื่อนไขให้ผู้ผลิต เครื่องพิมพ์ยกเลิกสัญญารับประกัน 


 อุปกรณ์ต่อพ่วงประเภทเครื่องพลอตเตอร์


 พลอตเตอร์ (Plotter) 
 เป็น อุปกรณ์แสดงผลต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์เพื่อวาดภาพ กราฟ วงจรลวดลายต่าง ๆ ลงบนกระดาษขนาดใหญ่ ๆ เหมาะกับงานด้านวาดภาพกราฟิก งานด้านการออกแบบที่ต้องการคุณภาพสูง  
 รูปที่ 7 : แสดงเครื่องพลอตเตอร์

หลักการทำงาน พลอตเตอร์ประกอบด้วยปากการหมึกหลายสี จำนวน 1 - 6 แท่ง เคลื่อนที่บนแกนโลหะ ควบคุมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ ทำการวาดจุดเล็ก ๆ ให้เป็นเส้น ลวดลายหรือภาพลงบนกระดาษขนาดใหญ่ แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 


1. Flatbed Plotter เป็น พลอตเตอร์ประเภทที่ใส่กระดาษวางไว้อยู่กับที่ แต่ส่วนเคลื่อนที่คือปากกา ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปมาบนแกนโลหะเพื่อวาดลงบนกระดาษอีกทีหนึ่ง 
  รูปที่ 8 : แสดงเครื่องพลอตเตอร์แบบ Flat bed


 2. Drum Plotter เป็น เครื่องพลอตเตอร์ที่มีล้อยางด้านล่าง ทำหน้าที่เคลื่อนกระดาษ ส่วนปากกาและหมึกจะอยู่ด้านบน เคลื่อนที่ไปทางด้านซ้ายและขวาเพื่อวาดรูปหรือวงจรตามต้องการ
  รูปที่ 9 : แสดงเครื่องพลอตเตอร์แบบ Drum

 
อุปกรณ์ต่อพ่วงประเภทลำโพง
 
 ลำโพง (Speaker) เป็น อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับสัญญาณข้อมูลจากการ์ดเสียงที่เป็นสัญญาณไฟฟ้าให้เป็น สัญญาณเสียง ลำโพงที่มา พร้อมกับคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นลำโพงขนาดเล็กที่มีคุณภาพไม่ดีนัก แต่เราสามารถหาซื้อลำโพง คุณภาพสูงมาเปลี่ยนได้เพื่อจะได้ฟังเพลงหรือเล่นเกมได้อรรถรสมากขึ้น
  รูปที่ 10 : แสดงอุปกรณ์ต่อพ่วงประเภทลำโพง

อุปกรณ์ต่อพ่วงประเภทสแกนเนอร์ 

สแกนเนอร์ (Scanner) เป็น อุปกรณ์ที่ใช้อ่านภาพ และข้อความจากกระดาษ แล้วแปลงเป็นข้อมูลเพื่อป้อนเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ โดยนำสายสแกนเนอร์ต่อเข้ากับพอร์ตขนานหรือพอร์ต USBของคอมพิวเตอร์ ขึ้นอยู่กับสแกนเนอร์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ 
 
 รูปที่ 11 : แสดงการต่อพ่วงสายสแกนเนอร์เข้ากับคอมพิวเตอร์
 

อุปกรณ์ต่อพ่วงประเภทเครื่องอ่านรหัสแท่ง 

          เครื่องอ่านรหัสแท่ง (BarCode Reader) เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ มีลักษณะคล้ายปากกาหรือลักษณะอื่น ๆ ทำหน้าที่อ่านรหัสข้อมูลที่ติดไว้บนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปมักนิยมใช้บริการขายสินค้า ณ จุดซื้อขาย (Point Of Sales Terminals) ของธุรกิจค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า หรือการบริการยืมคืนหนังสือในห้องสมุดขนาดใหญ่ที่ต้องการ ความรวดเร็วในการกรอกรายละเอียดข้อมูลที่เป็นข้อความและตัวเลข
รูปที่ 13 : แสดงการเครื่องอ่านรหัสแท่งที่ใช้ในธุรกิจค้าปลีก


รูปที่ 13 : แสดงการเครื่องอ่านรหัสแท่งที่ใช้ในธุรกิจค้าปลีก
 BarCodes Reader ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการกรอกข้อมูลทางแป้นพิมพ์ที่มีรายละเอียดของตัว อักษรและตัวเลขจำนวนมาก หลักการทำงานจะใช้วิธีการยิงแสงเลเซอร์เพื่ออ่านแถบรหัสแท่งสีดำที่พิมพ์ เรียงกันไว้ มีขนาด หนาบางแตกต่างกัน ติดอยู่บนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์แล้วนำรหัสข้อมูลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับราย ละเอียดข้อมูล ที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล (Database) แล้วนำข้อมูลไปแปลงเป็นรายละเอียดต่าง ๆ ที่จัดเก็บไว้ใน เครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อนำไปประมวลผลต่อไป โดยที่การทำงานของBarCode Reader นั้นจะต้อง มีโปรแกรมควบคุมการทำงานด้วย 
 รูปที่ 14 : แสดงรหัสแท่งสีดำที่พิมพ์เรียงกันไว้
อุปกรณ์ต่อพ่วงประเภทจอยสติก

จอยสติก (Joystick) คือ อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นคันโยก มีปุ่มบังคับที่ด้ามคันโยก เพื่อควบคุมตำแหน่งบนจอภาพได้ทุกตำแหน่งและทุกทิศทาง มักใช้ควบคุมโปรแกรมประเภทเกม ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว วิดีโอเกม หรือโปรแกรมประเภทการออกแบบทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและใช้งาน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ง่ายและสะดวก เวลาใช้งานให้นำจอยสติกต่อพ่วงกับพอร์ตจอยสติกที่อยู่ในซึ่งอยู่ในส่วน ของการ์ดเสียงด้านหลังเครื่องคอมพิวเตอร์  

อุปกรณ์ต่อพ่วงประเภท กล้องดิจิตอล

 กล้องดิจิตอล (Digital Camera) เป็น กล้องถ่ายภาพโดยไม่ใช้ฟิล์ม แต่จะเก็บข้อมูลเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์แทนซึ่ง เราสามารถนำไฟล์ภาพมาประยุกต์ใช้ในงานต่าง ๆ ได้ การใช้งานจะต่อสายเคเบิลระหว่างกล้องดิจิตอลกับพอร์ตของ เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการสำเนาหรือโอนย้ายไฟล์ไปยังตัวเครื่อง คอมพิวเตอร์
     
รูปที่ 17: แสดงอุปกรณ์ต่อพ่วงประเภทกล้องดิจิตอล

 กล้อง ดิจิตอล โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีหน่วยความจำภายในตัวกล้องดิจิตอลเอง ซึ่งหน่วยความจำนี้สามารถเก็บภาพได้อย่างน้อย 20 ภาพ เมื่อถ่ายภาพจนเต็มหน่วยความจำก็ให้ย้ายไฟล์รูปภาพไป ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วค่อยนำกล้องไปถ่ายภาพใหม่ได้อีก

 รูปที่ 18 : แสดงกล้องดิจิตอลประเภทที่มีหน่วยความจำภายในตัว

สื่อบันทึกข้อมูล
สื่อ บันทึกข้อมูลหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าหน่วยความจำสำรอง มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูล เพื่อนำมาเรียกใช้หรือแก้ไขในภายหลังได้ สื่อบันทึกข้อมูลที่ใช้กันอยู่มี หลายประเภทได้แก่ ฮาร์ดดิสก ์แผ่นดิสก์ ซีดีรอม ดีวีดีรอม ทัมร์ไดร์ฟหรือแฮนดรี้ไดร์ฟ เป็นต้น



ฮาร์ดดิสก์
            ฮาร์ดดิสก์คือสื่อบันทึกข้อมูล ที่มีความจุสูงและถูกติดตั้งไว้ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ โครงสร้างภายในฮาร์ดดิสก์ประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็กหลายแผ่นวางเรียงซ้อนกัน บนแกนตั้ง มีมอเตอร์ทำหน้าที่หมุนแผ่นจานแม่เหล็กด้วยความเร็วสูง แต่ละแผ่นจะมีหัวอ่านเขียน ยึดติดกับก้านหัวอ่าน (Access Arm) ทำหน้าที่เขียนอ่านในแต่ละด้านของแผ่นจานแม่เหล็ก แผ่นดิสก์แต่ละแผ่นมีโครงสร้างคล้ายกับแผ่นดิสก์เก็ต คือแบ่งเป็น แทร็กและเซ็กเตอร์ แต่ละแทร็ก ที่อยู่ในตำแหน่งตรงกันของทุกแผ่นเราเรียกว่า Cylinder ลักษณะการเข้าถึงข้อมูลทำได้ทั้งแบบ Sequential Access และ แบบRandom Access 

 
รูปที่ 19: แสดงโครงสร้างฮาร์ดดิสก์ภายนอกและภายใน
 

 

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แนะนำตัว !!~

[179456_130253680375636_100001730152329_191806_7027932_n.jpg]

นาย ชัชวาล จันทร์จม ปวช 1/7 รอบเช้า

แผนก คอมพิวเตอร์ธุรกิจ