วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

แนะนำตัว !!!!!~


นายชัชวาล  จันทร์จม

NickName : มิกซ์   !!~

เกิดวันที่ 15 สิงหาคม 2538


วิทยาลัยเทคโนโลยีพงษ์สวัสดิ์




วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ต่างๆ
 ระบบปฏิบัติการเป็นโปรแกรม (Software) ที่ทําหน้าที่ ควบคุมการทํางานของ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทําหน้าที่ เป็น ตัวกลางในการติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครื่องโดยตรงและโปรแกรมการใช์งานต่าง ๆ

ความหมายของระบบปฏิบัติการ
          โปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า  OS (Operating System)  เป็นโปรแกรม ควบคุมการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ควบคุมการทำงานต่าง ๆ เช่น การแสดงผล ข้อมูลการติดต่อกับผู้ใช้ โดยทําหน้าที่เป็นสื่อกลาง ระหว่างผู้ใช้กับเครื่องให้สามารถสื่อสารกันได้ควบคุมและจัดสรรทรัพยากรให้กับโปรแกรมต่าง ๆ

ระบบปฏิบัติการ (Operating System) ระบบต่างๆ
         การทํางานของคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทํางานด้วยตัวเองได้ แต่จะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทํางานซึ่งเรียกว่า “ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไปซอฟต์แวร์จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมสําเร็จรูป และโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ซึ่งระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้าที่ ในการจัดการและควบคุมการทํางานและอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การจัดการเกี่ยวกับการแสดงผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์ การจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้ม การติดตั้งโปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังช่วยสร้างส่วนติดต่อ ระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ (User interface) ให้ง่ายต่อการใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยู่หลาย ระบบ ซึ่งมีการพัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท แต่ที่สําคัญ ๆ มีดังนี้

            1. ระบบปฏิบัติการ DOS (Disk Operating System) 
          ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM เพื่อให้เป็นระบบปฏิบัติการสําหรับเครื่องพีซี ซึ่งตัวโปรแกรม DOS จะถูก Load หรืออ่านจากแผ่นดิสก์เข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจําก่อน จากนั้น DOS จะไปทําหน้าที่เป็น ผู้ประสานงานต่าง ๆ ระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมัติ โดยที่ DOS จะรับคําสั่งจากผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้ว นํ าไปปฏิบัติตาม โดยการทํางานจะเป็นแบบ Text mode สั่งงานโดยการกดคําสั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:>)ดังนั้น ผู้ใช้ระบบนี้จึงต้องจําคําสั่งต่าง ๆ ในการใช้งานจึงจะสามารถใช้งานได้ ระบบปฏิบัติการ DOS ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่เก่าแก่. และปัจจุบันนี้มีการใช้งานน้อยมาก

            
2. ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 

         Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดต่อกับ ผู้ใช้(User interface) เป็นแบบกราฟิก หรือเป็นระบบที่ใช้รูปภาพแทนคําสั่ง เรียกว่า GUI (Graphic User Interface) โดยสามารถสั่งให้เครื่องทํางานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่สัญลักษณ์หรือคลิกที่คําสั่งที่ต้องการ ระบบนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกว่า 1 โปรแกรมในขณะเดียวกันซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS หากต้องการเปลี่ยนไปทํางานโปรแกรมอื่น ๆ จะต้องออกจาก โปรแกรมเดิมก่อนจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ ในลักษณะการทํางานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกว่า “หน้าต่าง” โดยแต่ละโปรแกรมจะถือเป็นหน้าต่างหนึ่งหน้าต่าง ผู้ใช้สามารถ สลับไปมาระหว่างแต่ละหน้าต่างได้ นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถ แชร์ข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านทางคลิปบอ์.ด (Clipboard) ระบบ Windows ทําให้ผู้ใช้ ทั่ว ๆไปสามารถทําความเข้าใจ เรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น
          

   3. ระบบปฏิบัติการ Unix 

           Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของบริษัท SUN Microsystems แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัท Microsoft ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PC แต๋อย่างใด แต่Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช็เทคโนโลยีแบบเปิด (Open system) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไม่ต้อง ผูกติดกับระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน นอกจากนี้ Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ ตอบสนองการใช้งานในลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบหลายผู้ใช้(Multiuser system) และสามารถทํางานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ในลักษณะที่เรียกว่า ระบบหลายภารกิจ (Multitasking system)


             4. ระบบปฏิบัติการ Linux 

           Linux เป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ DOS, Windows หรือ Unix โดยLinuxนั้นจัด ว่าเป็นระบบปฏิบัติการ Unix ประเภทหนึ่ง การที่Linuxเป็นที่กล่าวขานกันมากในช่วงปี 1999 – 2000 เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ การและโปรแกรมประยุกต์ที่ ทํ างานบนระบบ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not UNIX) และสิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือ ระบบ Linux เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) คือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ โปรแกรม Linux นั้นมี นักพัฒนาโปรแกรมจากทั่วโลกช่วยกันแก้ไข ทําให้การขยายตัวของ Linux เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติการ หรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็นรุ่นที่ 2.2 (Linux Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนการทํางานแบบหลายซีพียู หรือ SMP (Symmetrical Multi Processors) ซึ่งทําให้ระบบLinux สามารถนําไปใช้สําหรับทํางาน เป็น Saver ขนาดใหญ่ได้ระบบ Linux ตั้งแต่รุ่น 4 นั้น สามารถทํางานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือ บนซีพียูของ อินเทล (PC Intel) ดิจิทัลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer และซันสปาร์ค (SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RPM (Red Hat Package Management) ถึงแม้ว่าขณะนี้ Linux ยังไม่สามารถแทนที่ Microsoft Windows บนพีซีหรือ Mac OS ได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็มีผู้ใช้ จํานวนไม่น้อยที่สนใจมาใช้และช่วยพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บน Linux และเรื่องของการดูแล ระบบ Linux นั้น ก็มีเครื่องมือช่วยสําหรับดําเนินการให็สะดวกยิ่งขึ้น

วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แนะนำตัว !!~

                       



นาย ชัชวาล จันทร์จม ปวช 1/7 รอบเช้า

แผนก คอมพิวเตอร์ธุรกิจ

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การลง Windows 7

ติดตั้ง Windows7 ง่ายนิดเดียว
วินโดวน์ 7 ในการติดตั้งเหมือนกันกับ vista เลยครับไม่ต่างกันซักนิด
สำหรับใครที่ยังไม่เคยก็มาเริ่มกันได้เลยครับ

1. เซตไบออสให้บูตด้วย CD/DVD ก่อนนะครับ อ่านได้ที่ (http://www.it4x.com/forum/index.php?topic=30.0)
2. หลังจากนั้นใส่แผ่นเข้าไปเมื่อเครื่องเริ่มอ่านแผ่นแล้วบู๊ตจากแผ่นขึ้นมาเป็นหน้าตาแบบนี้ครับ ให้เราปล่อยไปเรื่อยๆ



it4x
     
  • ระบบจะทำการโหลดไฟล์ setting ลงไปในเครื่อง
it4x
     
  • โลโก้ bootscreen แบบอนิเมชันสวยงาม
it4x
     
  • หน้าเริ่มต้นการติดตั้ง บรรทัดแรก เลือกภาษาอังกฤษในการติดตั้ง    
  • บรรทัดสอง เลือก time and currency format ช่องนี้ให้เลือกเป็นไทย    
  • เพื่อที่ว่าเวลาติดตั้งเสร็จวินโดวส์จะมีภาษาไทยให้ใช้    
  • บรรทัดที่สาม keyyboard เป็น US ก็ได้ครับไม่มีปัญหา แล้วกด next
it4x
     
  • พร้อมที่จะติดตั้ง กด Install now    
  • ด้านล่างจะมีทางเลือกพิเศษให้สองทาง
it4x
     
  • ถ้าเลือก What to know before installing windows    
  • จะเปิดไฟล์ Help and support ซึ่งจะบอกรายละเอียดของการติดตั้งเพิ่มเติม    
  • ถ้าเลือกอีกหัวข้อ จะเป็น repair your computer   คือการซ่อมวินโดวส์แบบไม่ต้องลงใหม่
it4x
     
  • กรณีนี้เราเลือก Install now จะมาที่หน้านี้    
  • ให้คลิกยอมรับ Licence term
it4x
     
  • หน้านี้จะถามว่า คุณจะติดตั้งแบบไหน    
  • ถ้าเลือก Upgrade จะเป็นการลงวินโดวส์ทับของเก่า โปรแกรมและไฟล์จะไม่หาย    
  • ถ้าเลือก Custom จะเป็นการติดตั้งแบบลงใหม่หมด พร้อมฟอร์แมตดิสค์
it4x
     
  • หน้าต่างนี้ จะถามว่า คุณจะติดตั้งลงไดร์วไหน    
  • ถ้าเครื่องคุณมีหลายไดร์ว ต้องจำชื่อหรือ จำขนาดให้ดี เลือกแล้ว กด next
it4x
     
  • copy ไฟล์ และทำการติดตั้ง ขั้นตอนนี้รอนานหน่อย
it4x
     
  • ยังไม่ครบขั้นตอนดี จะรีสตาร์ทก่อนรอบนึงครับ
it4x
     
  • เจอ boot screen logo สวยๆอีกแล้ว
it4x
     
  • กลับมาติดตั้งต่ออีกหน่อยนึง แล้วรีสตาร์ทอีกรอบ
it4x
     
  • ติดตั้งเสร็จแล้ว ตั้งชื่อผู้ใช้ และ ตั้งชื่อคอมพิวเตอร์
it4x
     
  • ตั้งรหัสผ่าน ถ้าไม่ต้องการใช้รหัสผ่านให้เว้นว่างไว้เลย
it4x
     
  • ใส่ Product key ที่ได้มาจากตอนลงทะเบียนดาวโหลดตัวติตดั้ง
it4x
     
  • ตั้งค่าการอัพเดต แนะนำให้เลือก use recommended setting
it4x
     
  • ตั้งเวลา และวันเดือนปี เอาเป็น +7.00 bangkok นะครับ
it4x
     
  • จากนั้นตั้งสภาพแวดล้อมในการใช้งานคอมพิวเตอร์   แต่ละหัวข้อจะมีความปลอดภัยต่างกัน    
  • Home network ความปลอดภัยจะต่ำ เน้นการแชร์ไฟล์ให้กันและกัน    
  • Work network ควมปลอดภัยปานกลาง แชร์ไฟล์ได้แต่ต้องมีรหัสผ่าน    
  • Public network ความปลอดภัยสูง ไม่เก็บพาสเวิร์ดและไม่แชร์ไฟล์    
  • ถ้าไม่แน่ใจให้เลือก Public network
it4x
     
  • เสร็จสิ้นการติดตั้ง เตรียมเข้าสู่ Windows 7
it4x
it4x
     
  • หน้าจอ Desktop ของ Windows 7 RC
จะสังเกตได้ว่า ติดตั้งง่าย รวดเดียวจบ ไม่ต้องลงไดร์วเวอร์เลย   ระบบมันจะหาให้เราเองหมด อาจจะมีบ้างเช่น   เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่อกับเครื่องพิมพ์หรือเครื่องสแกนเนอร์หรือฮาร์ดแวร์อื่นๆ   ที่อาจจะจำเป็นต้องหาไดร์เวอร์มาลงเอง   แค่หาไดร์เวอร์ส่วนต่างๆในเครื่องได้ก็แจ๋วแล้วครับ
it4x
อีกข้อแนะนำคือ เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ขอให้เข้าไปทำการ activate   หรือลงทะเบียนการใช้งานแบบสมบูรณ์ ซึ่งต้องทำภายใน 30 วัน หลังจากติดตั้งแล้ว   สามารถทำได้แบบออนไลน์ แค่คลิกเมนู start ไปที่ my computer คลิกขวา เลือก   properties เลื่อนลงมาด้านล่างจะมีลิ้งค์ให้คลิก activate online เมื่อทำเสร็จแล้ว   จะสามารถใช้ได้อย่างถูกต้องเป็นเวลา 1 ปี หรือ ถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2010

ที่มาของบทความนี้ : http://www.windows7club.net/?p=81#more-81

การสร้าง USER





คลิก Create a new account



ใส่ชื่อ User  - > Next



เลือกสิทธิ์ในการใช้งาน -> Create Account



เสร็จขั้นตอนการสร้าง User

ต่อไปมาถึงขั้นตอนการ Set Password

คลิกที่ User ที่ต้องการ Set Password จะได้ดังรูปข้างล่าง



คลิก Create a password



ใส่ Password -> Create password

เสร็จสิ้นขั้นตอนการ Set password แล้วลอง Switch User ดูนะค่ะ ว่าจะขึ้นมาประมาณรูปนี้หรือเปล่า

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การสร้างโฟลเดอร์

 การสร้างโฟลเดอร์ใหม่
 

1. คลิกเมาส์ขวาที่พื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป
2. เลื่อนเมาส์ไปที่ New
3. คลิก Folder  จะเห็นโฟลเดอร์ใหม่พร้อมชื่อโฟลเดอร์ที่ตั้งมาให้ (New Folder)
4. พิมพ์ชื่อโฟลเดอร์ใหม่
5. กดปุ่ม Enter
 train01b.gif
 การเปลี่ยนชื่อไฟล์
1. คลืกที่ชื่อไฟล์ หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ
2. กดปุ่ม F2 (หรือคลิกขวาที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ เลือกคำสั่ง Rename จากนั้นพิมพ์ชื่อใหม่ที่ต้องการ)
3. พิมพ์ชื่อไหล์ หรือโฟลเดอร์ใหม่
 train01b.gif
 การลบไฟล์ / โฟลเดดอร์
1. คลิกที่ชื่อไฟล์/โฟลเดอร์ ที่ต้องการลบ
2. กดปุ่ม Delete
3. กดปุ่ม Yes เพื่อยื่นยันการลบไฟล์
 train01b.gif
  การจัดเรียงไอคอน
1. คลิกเมาส์ขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ทอป
2. เลือนเมาส์ไปที่ Arrange Icons
3. คลิกเลือกวิธีการจัดเรียงไอคอน
        by Name - เรียงตามชื่อ
        by Type         - ชนิดของไฟล์
        by Size         - ขนาดของไฟล์
        by Date         - วันที่จัดเก็บไฟล์
        Auto Arrange    - จัดเรียงแบบอัตโนมิติ

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิธีการลง Windows XP

1.เปิดเครื่อง สั่ง BIOS ให้ boot จาก CD-ROM หลังจาก exit และ save BIOS แล้วเครื่องจะ restart
2.ใส่ แผ่น windows XP เข้าไปใน CD-ROM Drive
3.จะพบข้อความ press any key to boot from CD.. ให้กดปุ่ม enter เพื่อ boot เครื่องจาก CD-ROM Widows XP
4.จะมีการ copy ไฟล์หรือข้อมูลบางส่วน รอไปก่อน...
5.เมื่อพบหน้าต่าง welcome to setup ให้เริ่มติดตั้งได้ทันทีโดยกดปุ่ม enter เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
6.จะปรากฏข้อความเกี่ยวกับการใช้งาน windows XP (หน้าจอเขียนว่า Windows XP Licensing) ให้กดปุ่ม F8 เพื่อยอมรับรายละเอียดดังกล่าว
7.พอมาถึงขั้นตอนนี้ จะเป็นการเลือกติดตั้ง Windows XP ลงใน partition
8.เลือกระบบไฟล์ที่ต้องการ (ลงเป็น NTFS แล้วเครื่องเร็วกว่า FAT ) 
9.ปรากฏหน้าจอให้ format (to continue and format the partition , press enter) ให้กด enter
10.Windows จะเริ่ม format
11.หลังจาก format แล้วมันก็จะ copy ข้อมูลลงใน HD
12.หลังจากนั้นปรากฏหน้าจอ This partition of setup has completed……ให้กดปุ่ม enter เพื่อ restart เครื่อง
13.หลังจากเครื่องเริ่ม restart อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกว่าจะขึ้นหน้าจอ Windows CP Professional
14.จะเห็นวินโดว์ตรวจสอบค่าต่างๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีอะไรของมันไปตามเรื่อง
15.แล้วมันจะเข้าสู่หน้าต่าง Windows จากนั้นรอไปเรื่อยๆ แล้วมันจะมีข้อความขึ้นมาก็ให้กด Next ไปเรื่อยๆ พอลงโปรแกรมไรเสร็จมันก็จะ Restart อีกครั้งหนึ่งเพื่อใช้งาน 
16.แล้วมันจะมีข้อความขึ้นมาให้กด OK

 คำถาม

1.การตั้งค่าใน bios โดยจะเลือกบูตให้เป็นอะไร

ก.CD-Rom  ข.Rom-CD ค. Windows XP ง. OK
 
2.เวลาเข้ามาสู่หน้า  Welcome to Setup ให้กดอะไร

ก.Restart  ข. OK  ค. Enter ง. Delete 


3.พอถึง Licensing Agreement ให้กดปุ่มอะไร


ก. F1  ข.F4  ค.F6  ง.F8


4.เลือกชนิดของระบบ FAT ที่จะใช้งานกับ Windows XP แนะนำให้เลือก FAT32 แล้วกดปุ่มอะไร


ก. OK  ข.Enter ค.F8 ง.ESC


5.พอติดตั้ง FAT32 เสร็จโปแกรมจะทำอะไร


ก.มีตัวอักษรขึ้น ข.หน้าจอดับ ค.หน้าจอเปลี่ยนสี ง. Restart


6.พอเข้ามาสู่หน้าต่าง Windows XP จะมีอะไรขึ้นมา


ก.ขั้นตอนต่าง ๆ ข. ไวรัส ค.ตัวเลข ง.ลิงก์


7.พอทำตามขั้นตอนเสร็จกดอะไร


ก.OK ข.Delete ค.Enter ง. Next


8.การติดตั้ง เลือก Time Zone ให้เป็นของอะไร


ก. ไทย ข.อังกฤษ ค.จีน ง.ญี่ปุ่น


9.พอติดตั้งเลือก Time Zone เสร็จกดคำว่าอะไร


ก. Next ข. Restart  ค. ok ง.ถูกทุกข้อ


10.พอทำขั้นตอนเสร็จ เครื่องก้จะทำการอะไร


ก.ค้าง ข.กะตุก ค.ดับ ง. Restart 
 

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การปรับแต่ง Windows 7

ในที่สุดการรอคอยก็ใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว สำหรับ Windows 7 ที่หมายว่าจะสร้างความนิยมให้กับผู้ใช้ได้ หลังจากที่เราผิดหวังจาก Windows Vista กันมาแล้ว ซึ่ง Windows 7 นั้น นอกจากมีความสวยงามน่าใช้ไม่แตกต่างไปจาก Vista แล้ว ยังใช้งานได้ดี ไม่แพ้กับ Windows XP เลย เรียกว่าหากได้ใช้ Windows 7 แล้ว คุณจะไม่อยากกลับไปใช้ Windows XP อีกเลย
ดูจากรูปเราจะเห็นว่า Windows 7 แม้จะพัฒนาต่อยอดมาจาก Windows Vista แต่หน้าตาก็มีการปรับเปลี่ยนไปบ้างพอสมควร แม้จะใช้งานได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องปรับตัวกันนิดหน่อยเพื่อให้สามารถใช้งาน Windows 7 ได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่วนประกอบที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือส่วนของทาสก์บาร์ ที่ปรับปรุงให้เรียกใช้โปรแกรมได้ง่ายขึ้น มีการตัดทอนบางฟังก์ชั่นออกไป เช่น Quick Launch

ส่วนของซิสเท็มบาร์ที่ถูกซ่อนเอาไว้ไม่ให้แสดงผลเกะกะบนหน้าจอ รวมทั้งแถบของ Gadget ที่หายไป โดยเราสามารถเรียก Gadget ขึ้นมา และวางไว้ตรงไหนก็ได้ของหน้าจอ โดยไม่กินพื้นที่เหมือนกับ Gadget Bar ในWindows Vista อีก แน่นอนว่าเมื่อเวอร์ชันใหม่ออกมา ก็ต้องมีความสามารถใหม่ๆ ตามมาด้วย และนี่คือทิปที่จะช่วยให้คุณใช้งาน Windows? 7 ได้ง่ายและสะดวกขึ้น พร้อมกับสามารถปรับแต่งหน้าตาอินเทอร์เฟสต่างๆ ได้ตามต้องการ
สร้างแผ่นสำหรับแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์
คงบอกว่าหากวันใดวันหนึ่ง Windows ของคุณเกิดปัญหาขึ้น จะทำให้คุณต้องยุ่งยากขนาดไหน ดังนั้นเราควรที่จะสร้างหนทางสำหรับที่จะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น โดยการสร้างแผ่นบู๊ตยามฉุกเฉินเอาไว้ก่อน โดยหลังจากที่ติดตั้ง Windows เสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ก็ให้เราเตรียมแผ่นดิสก์เปล่าๆเอาไว้ก่อน จากนั้นคลิกที่ Start > Maintenance > Create a System Repair Disc และใส่แผ่นดิสก์เปล่าลงไป และให้ Windows 7 สร้างแผ่นบู๊ตยามฉุกเฉินเอาไว้ก่อน ทีนี้ หาก Windows มีปัญหาในการทำงานเกิดขึ้น เราก็สามารถใช้แผ่นดิสก์นี้บู๊ต เพื่อแก้ไขปัญหา

เขียนแผ่นซีดีและวิดีโอจาก ISO ไฟล์ โดยไม่ต้องลงโปรแกรมเบิร์น
คุณสมบัติอย่างหนึ่งของ Windows 7 ก็คือเราสามารถสร้างเบิร์นแผ่นดีวีดีหรือซีดีได้ โดยไม่ต้องลงโปรแกรมเขียนแผ่นดิสก์ลงไปก่อน ซึ่งช่วยให้สะดวกขึ้น หากว่ามีแผ่นโปรแกรมในรูปแบบของไฟล์ ISO อยู่ในเครื่องอยู่แล้ว ก็สามารถคลิกที่ไฟล์ ISO นั้นแล้วเลือกไดรว์ที่จะเขียน พร้อมกับใส่แผ่นดิสก์เปล่าลงไป เท่านี้ Windows ก็จะพร้อมที่จะสร้างแผ่นดิสก์จาก ISO ไฟล์ได้เลย
แก้ไขปัญหาใน Windows 7 ให้รวดเร็ว
เวลาเกิดปัญหากับการใช้งาน Windows คงไม่ต้องบอกว่ามันยุ่งยากขนาดไหน เพราะเราไม่รู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากอะไรและจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆนั้นอย่างไรได้บ้าง แต่สำหรับ Windows 7 แล้ว มีเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสามารถค้นหาปัญหา และแก้ไขได้ด้วยตัวเองก่อนที่จะต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญต่อไป โดยเราสามารถเข้าถึงการตรวจสอบปัญหาต่างๆ ได้จากการเลือกที่ Control Panel > Troubleshoot Problems ซึ่งจะมีวิซาร์ด ช่วยในการค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้น และวิธีการแก้ไข รวมทั้งยังเป็นการเช็คอัพระบบ และกำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับการทำงานของคุณได้

ซ่อนไอคอนของ Windows Live Messenger
ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ต้องใช้ Windows Live Messenger เป็นประจำบน Windows 7 คุณจะพบว่าเมื่อเปิด Windows Live Messenger มันจะแสดงการทำงานค้างไว้บนทาสก์บาร์ให้เกะกะ ซึ่งหากคุณไม่ชอบใจ ก็สามารถซ่อนการทำงานของ Windows Live Messenger เอาไว้ได้ โดยก่อนอื่นต้องคลิกขวา เลือกที่ไอคอนของ Windows Live Messenger จากนั้นเลือกที่ Properties แล้ว กำหนดให้แอพพลิเคชั่น ทำงานในโหมดของ Windows Vista Compatibility จากนั้นก็เปิดการทำงานของ Windows Live ขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้โปรแกรม Messenger จะถูกซ่อนการทำงานเอาไว้ ไม่โผล่มาให้เกะกะบนทาสก์บาร์อีก
เพิ่มพื้นที่การใช้งานให้กับเดสก์ท็อป
ใน Windows 7 เราจะพบว่าทาสก์บาร์นั้นมีขนาดที่ใหญ่มาก ซึ่งอาจจะกินพื้นที่บางส่วนของเดสก์ท็อปไปอย่างมาก รวมทั้งไอคอนต่างๆ ทำให้พื้นที่สำหรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ นั้น วางได้ไม่เยอะ ซึ่งเราสามารถที่จะปรับขนาดของไอคอนบนเดสก์ท็อปให้เล็กลงได้ โดยคลิกขวาที่ทาสก์บาร์ จากนั้นเลือกที่ Properties > Taskbar > Use small icons เพื่อที่จะให้ไอคอนบนทาสก์บาร์เล็กลง และเราก็จะได้พื้นที่ใช้งานบนเดสก์ท็อปนั้นเพิ่มขึ้น
เพิ่ม Quick Launch ให้กับทาสก์บาร์
ด้วยการมี Launch ที่สามารถเรียกโปรแกรมต่างๆ ขึ้นมาให้แล้ว ทำให้ Quick Launch เดิมที่มาพร้อมกับ Windows ก่อนหน้านี้ ถูกตัดออกไป แต่เราก็สามารถเปิดการทำงานของ Quick Launch ขึ้นมาได้ โดยให้คลิกขวาที่ทาสก์บาร์ จากนั้นเลือกที่ Toolbars/ New Tools Bar ก็จะปรากฏหน้าต่าง Folder Selection dialog ขึ้นมา ให้พิมพ์ข้อความตามนี้ลงไป %userprofile%\AppData\Roaming\Microsoft\Internet Explorer\Quick Launch แล้วคลิกที่ OK ก็จะมีแถบของ Quick Launch ปรากฏขึ้นที่ทาสก์บาร์ แต่ตอนนี้ Quick Launch จะดูเหมือนว่าไม่ปรากฏออกมาเพราะมีแถบข้อความ และคำอธิบายเต็มไปหมด ให้คลิกขวาที่ Quick Launch แล้วเอาเช็คบ็อกซ์ตรง lock the taskbar ออก แล้วคลิกขวาอีกครั้งที่ Quick Launch และให้นำเช็คสบ็อกซ์ หน้าข้อความ show Text และ Show Titles ออกไป ที่นี้เราก็สามารถลากไอคอนชอร์ตคัทของโปรแกรมต่างๆ ที่ต้องการ นำมาวางไว้ตรง Quick Launch นี้ได้ และเมื่อเป็นที่พอใจแล้ว ก็ให้คลิกขวาที่ทาสก์บาร์ พร้อมกับล็อคทาสก์บาร์เอาไว้ให้เรียบร้อย
                                     

เปลี่ยนการทำงานให้กับเพาเวอร์สวิทช์
ปกติหน้าที่ของเพาเวอร์สวิทช์ ก็คือการเปิดเครื่อง แต่ขณะที่คอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่ล่ะ จะให้มันทำหน้าที่เป็นอะไร ในWindows 7 เราสามารถกำหนดการทำงานให้กับเพาเวอร์สวิทช์ได้ โดยคลิกขวาที่ไอคอน Windows มุมล่างซ้าย แล้วเลือกที่ properties จากนั้น คลิกที่แท็บ Start Menu แล้วตรง power button action ก็กำหนดหน้าที่ที่ต้องการให้กับปุ่มเพาเวอร์ได้ ทั้งการชัตดาวน์ รีสตาร์ท หรือล็อคเครื่องก็ได้เช่นกัน
ควบคุมการทำงานบน Windows ด้วยปุ่ม Windows คีย์
หากคุณต้องการปรับการแสดงผลขณะทำงานบน Windows 7 เพื่อให้สะดวกขึ้น เราสามารถใช้ปุ่ม windows คีย์ เพื่อเป็นคีย์ลัดในการจัดการการแสดงผลของหน้าต่างบน Windows ได้ ไม่ว่าจะเป็นการย่อขยาย จัดการแสดงผลให้เต็มหน้าจอ หรือย่อทั้งหมดลงมา หรือเรียกการทำงานของหน้าต่างที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น ซึ่งคีย์ลัดนี้ เราสามารถทำงานกับ Windows ได้อย่างรวดเร็วขึ้น โดยสามารถแบ่งการทำงานที่ต้องใช้ร่วมกับปุ่ม Windows คีย์ได้ดังนี้
  • ปรับขนาดของหน้าต่างให้ตรงกับความต้องการ
-?? ?เราสามารถใช้ปุ่ม Windows คีย์ ร่วมกับปุ่มลูกศร เพื่อปรับขนาดของ Windows ได้ตามต้องการ เช่น
-?? ?Win + ลูกศรขึ้น และ Win+ ลูกศรลง? เป็นการขยายขนาดของหน้าต่างให้เต็มหน้าจอ และย่อขนาดกลับลงมาเท่าเดิม
-?? ?Win + ลูกศรซ้าย และ Win + ลูกศรขวา เป็นการกำหนดตำแหน่งของการแสดงผลอยู่ทางครึ่งของหน้าจอทางซ้ายมือหรือว่าขวามือ
-?? ?Win + Shift +ลูกศรขึ้น และ Win+Shift+ ลูกศรลง? เป็นการขยายขนาดของหน้าต่างให้เต็มหน้าจอทางด้านแนวตั้ง และย่อขนาดกลับลงมาเท่าเดิม
  • แสดงผลออกโปรเจ็คเตอร์
หมดปัญหากับการที่ต้องควานหาปุ่ม เพื่อเลือกการแสดง หากต้องการต่อกับโปรเจ็คเตอร์หรือมอนิเตอร์ภายนอก เพราะเพียงแค่ใช้คีย์ Win + P ก็จะเป็นการเลือกการแสดงที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลเฉพาะหน้าจอหลัก การแสดงผลหน้าจอทั้งสองให้เหมือนๆกัน การแสดงแบบบนจอที่สองแบบ extend และการแสดงผลเฉพาะจอที่สองเพียงอย่างเดียว
แต่หากว่าคุณต้องการแสดงผลเฉพาะพรีเซนเทชั่น เพื่อออกไปทางโปรเจ็คเตอร์ คงไม่อยากให้การแสดงผลบนหน้าจอถูกขัดจังหวะด้วยสกรีนเซฟเวอร์ หรือว่าข้อความทาง IM ที่ส่งมาให้คุณ เราสามารถใช้ปุ่ม Win+X เพื่อกำหนดการแสดงผลเฉพาะพรีเซนเทชั่นได้ เท่านี้เวลาข้อความทาง IM ส่งเข้ามาหรือว่าสกรีนเซฟเวอร์ทำงาน ก็จะไม่มีผลต่อการแสดงผลบนหน้าจอโปรเจ็คเตอร์อีก
  • ย่อหน้าต่างให้เลือกเฉพาะที่ใช้งานปัจจุบัน
เราสามารถย่อหน้าต่างอื่นๆที่ไม่ได้ใช้งาน ให้ลงไปอยู่บนทาสก์บาร์ได้ โดยกดคีย์ Win+ Home ซึ่งหน้าต่างอื่นๆที่เราไม่ได้ใช้งานอยู่ ก็จะถูกย่อลงเองโดยอัตโนมัติ และเมื่อกด Win+Home อีกครั้ง ก็จะกลับมาแสดงผลตามปกติ
  • ทำงานแบบหลายมอนิเตอร์พร้อมๆ กัน
ถ้าคุณต่อมอนิเตอร์หลายๆตัวเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ เราสามารถเคลื่อนการทำงานจากมอนิเตอร์หนึ่งไปยังอีกมอนิเตอร์หนึ่งได้ โดยกดปุ่ม Win+shift+ปุ่มลูกศรซ้าย หรือขวา เพื่อเลื่อนการทำงานไปยังมอนิเตอร์ที่ต้องการได้
  • เรียกใช้โปรแกรมบนทาสก์บาร์ด้วยคีย์ลัด
ในทาสก์บาร์ของ Windows 7 จะมีการจัดเรียงโปรแกรมเอาไว้อยู่ และเราสามารถที่จะเรียกใช้แอพพลิเคชั่นเหล่านั้นได้โดยง่าย เพียงแค่เล็งไว้ว่าแอพพลิเคชั่นนั้นๆอยู่ตำแหน่งที่เท่าไหร่ นับจากปุ่มสตาร์ทเป็นต้นมา เราสามารถเรียกแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วขึ้น จากการที่กดคีย์ Win+คีย์ตัวเลข ก็จะเป็นการเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นลำดับตัวเลขนั้นขึ้นมาทันที
  • มองทะลุเดสก์ทอป
ใน Windows 7 มีฟังก์ชั่นบางตัวที่เรียกว่า? Gadget สำหรับบอกเวลา บอกวันที่ รวมถึงดูโน้ตต่างๆได้ ซึ่งปกติหากเราต้องการดูของต่างๆ ที่อยู่บนเดสก์ท็อป เราต้องย่อหน้าต่างลงมาทั้งหมดเสียก่อน แต่หากว่าเราต้องการแค่ดูเฉยๆโดยไม่ได้ทำอะไร Windows 7 ยอมให้คุณกดปุ่ม Win+Space เพื่อมองทะลุหน้าต่างทั้งหมดที่อยู่ ให้คุณมองเห็นเดสก์ท็อปได้
  • ท่องไปตามทาสก์บาร์
หากต้องการเรียกแอพพลิเคชั่นที่เปิดเอาไว้บนทาสก์บาร์อย่างรวดเร็ว เราสามารถใช้คีย์ Win+T เพื่อเลือกใช้งานโปรแกรมที่อยู่บนทาสก์บาร์ได้ โดยเลือกเป็นกลุ่มของแอพพลิเคชั่น เพื่อสามารถเลือกแอพพลิเคชั่นที่ต้องการได้สะดวกกว่า

  • ขยายการมองเห็นให้กับ Windows
หากว่าคุณเป็นคนที่สายตาไม่ดี หรือมีปัญหากับการมองบางส่วนของภาพได้ไม่ชัดเจน Windows 7 ยอมให้เราสามารถซูมภาพเข้าไปได้ เพื่อมองบางส่วนในการแสดงผลให้ชัดเจนขึ้น โดยใช้คีย์ Win++ ก็จะเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น magnifier ในการขยายภาพทั้งหมดบนหน้าจอขึ้นมา และหากต้องการกลับสู่การแสดงผลปกติ ก็เพียงแค่ใช้คีย์ Win + -? ก็จะเป็นการย่อให้ Windows กลับมาแสดงผลเป็นปกติ เรียบร้อยเหมือนเดิม
  • เรียกใช้งาน Gadget ได้อย่างรวดเร็ว
Gadget บน Windows 7 ให้ประโยชน์ในการทำงานของเราได้อย่างมาก เช่น ปฏิทิน หรือว่านาฬิกา แต่ในขณะทำงานอยู่ มักจะไม่สะดวกที่จะต้องย่อหน้าต่างลงไป ซึ่งหากเราต้องการเรียกใช้งาน Gadget อย่างปัจจุบันทันด่วน เราสามารถเข้าถึง Gadget ได้อย่างรวดเร็วด้วยคีย์ Win+G เพื่อให้ Gadget ขึ้นมาอยู่บนท็อปของหน้าต่างการทำงานปัจจุบันได้ทันที

ทำงานง่ายขึ้นด้วย ALT คีย์
ใน Windows 7 สามารถใช้งานคีย์ลัด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียกใช้งาน Windows ได้อย่างมาก และ ALT ก็คือคีย์อเนกประสงค์อีกคีย์หนึ่ง ที่สามารถนำมาใช้งานร่วมกับคีย์ต่างๆ เพื่อให้ทำงานร่วมกับ Windows ได้สะดวกขึ้น
เรียกใช้งานเมนูบาร์บน Explorer
ด้วยฟังก์ชั่นพิเศษที่ไมโครซอฟท์เห็นว่ามันอาจจะเกะกะ ก็เลยซ่อนเมนูบาร์ใน Explorer เอาไว้ซะ ทำให้การปรับแต่งการทำงานต่างๆนั้นอาจจะไม่สะดวก แต่เราสามารถเรียกเมนูบาร์ออกมาได้ง่ายๆ โดยกดปุ่ม alt หนึ่งครั้งก็จะเป็นการแสดงผลเมนูบาร์ขึ้นมา และเมนูบาร์นี้จะถูกซ่อนเอาไว้โดยอัตโนมัติ เมื่อเราไม่ได้ใช้งาน
เพิ่มขีดความสามารถในการใช้งาน Explorer
ใน Explorer ตัวล่าสุดของ Windows 7 เราสามารถใช้คีย์ลัด ALT ร่วมกับคีย์ต่างๆ เพื่อให้ใช้งาน Explorer ได้ง่ายขึ้น เช่น

  • ALT+UP เป็นการกระโดดไปยังโฟลเดอร์แรกสุดคือ Desktop โดยอัตโนมัติ หรือย้อนกลับไปโฟลเดอร์รูท หากว่าเราทำงานอยู่ในโฟลเดอร์ย่อยๆ ของโฟลเดอร์รูทนั้น
  • ALT + Right คือการไล่สเต็ปไปยังโฟลเดอร์ ที่เปิดขึ้นมาล่าสุด
  • ALT + LEFT คือการย้อนกลับไปทำงานยังโฟลเดอร์ก่อนหน้าโฟลเดอร์ปัจจุบัน
  • ALT +D เป็นการทำงานกับแอดเดรสบาร์ของพาธ การทำงานปัจจุบัน
  • F4 เป็นการเรียกใช้งาน drop down menu ของแอดเดรสบาร์
  • ALT+ENTER เป็นการเรียก Properties ของไฟล์ที่เคอร์เซอร์กำลังถูกเลือกอยู่ในขณะนั้น
  • CTRL+mousewheel เป็นการเปลี่ยนขนาดของไอคอนใน explorer
  • F11 เป็นการเปลี่ยนโหมดของ explorerให้ทำงานในโหมด Full Screen
เรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นในโหมดของ Windows Compatibility เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมเก่าได้
ปัญหาใหญ่ๆของการใช้งาน Windows 7 ก็คือการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นเดิมๆ ที่เคยใช้งานได้ใน Windows XP หรือว่า Vista ซึ่งหากเราเรียกใช้งานตรงๆ อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ Windows 7 จึงมีโหมดการทำงาน Windows Compatibility เพื่อให้นำแอพพลิเคชั่นเดิมๆที่สามารถเคยใช้งานได้ใน Windows XP หรือ Vista ให้ใช้งานได้บน Windows 7 โดยการคลิกขวาที่ไอคอนของแอพพลิเคชั่นนั้นๆ จากนั้นเลือกที่ Properties แล้วไปยังแท็บ compatibility mode และเลือก Run this program in compatibility mode for ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าให้แอพพลิเคชั่นตัวนั้น ทำงานในโหมดของ Windows เวอร์ชั่นไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Windows XP หรือว่า Windows 95 ก็ยังไหว โดยในโหมด compatibility แนะนำว่าควรที่จะเลือก disable visual themes และ desktop composition เอาไว้ด้วย และหากว่าแอพพลิเคชั่นนั้นเป็นวิดีโอเกม ก็ควรที่จะเลือก Run this program as an administrator เอาไว้ด้วย เพื่อที่ Windows 7 จะไม่ตั้งคำถามสำหรับคุณอีก

ใช้งาน Sticky Notes เพื่อเตือนความจำ
แอพพลิเคชั่นหลายๆ ตัวได้ถูกเติมเต็มเข้ามาใน Windows 7 นี้ เพื่อให้การทำงานของผู้ใช้นั้นง่ายขึ้น โดยไม่ต้องไปหาโปรแกรมอื่นๆมาติดตั้งให้ยุ่งยากอีก เช่น Sticky Notes หรือ กระดาษเตือนความจำ ซึ่งให้เราสามารถโน้ตข้อความต่างๆ วางไว้บนเดสก์ท็อปได้สะดวก โดยเราสามารถเรียกใช้งาน Sticky Notes จากการพิมพ์ notes ที่ช่อง Search ก็จะเป็นการหาแอพพลิเคชั่น Sticky Note ให้เราเองโดยอัตโนมัติ และเราสามารถเปลี่ยนสีของกระดาษโน้ตได้ โดยการคลิกขวาที่ Sticky Note แล้วเลือกสีกระดาษโน้ตตามต้องการ? และหากต้องการเพิ่มกระดาษโน้ตก็สามารถคลิกที่เครื่องหมาย + บนกระดาษโน้ต และเมื่อต้องการปิดการใช้งาน Sticky Note ก็ให้กด Alt+F4 ก็จะเป็นการปิดการทำงานลง แต่จะเก็บข้อความทั้งหมดเอาไว้ ซึ่งเมื่อเปิดการทำงานขึ้นมาอีก ข้อความเดิมที่มีอยู่ก็จะปรากฏขึ้นมาเหมือนเดิม